กองปราบรวบเซลส์แมน หลอกสั่งสินค้าเกินออร์เดอร์ บริษัทฯ สูญเงินกว่า 2,000,000 บาท

กองปราบรวบเซลส์แมน หลอกสั่งสินค้าเกินออร์เดอร์ บริษัทฯ สูญเงินกว่า 2,000,000 บาท

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก         เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.2 บก.ป. 

ร่วมกันติดตามจับกุม นายกิจพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ

1. หมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 320/2562 ลง 5 พ.ย.62 ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง”

2. หมายจับศาลแขวงทุ่งสง ที่ 68/2562 ลง 20 ธ.ค.62 ข้อหา “ฉ้อโกง”

3. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราชที่ 82/2563 ลง 25 ส.ค.63 ข้อหา “ยักยอก”

4. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราช ที่ จ.7/2563  ลง 7 ก.พ.63 ข้อหา “ยักยอก” 

5. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราช ที่ 52/2562 ลง 2 ส.ค.62 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”

6. หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 103/2563 ลง 28 พ.ค.63 ข้อหา “ยักยอก”

7. ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ จ.61/2563 ลง 1 พ.ค.63 “ยักยอกทรัพย์”

8. หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 221/2562 ลง 9 ก.ย.62 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”

9. ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.42/2563 ลง 4 มิ.ย.63 “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือทรัพย์ที่อยู่ในครอบครองของนายจ้าง”
10. ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.212/2562 ลง 5 พ.ย.62 ข้อหา “ยักยอก”

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณต้นปี 2561 นายกิจพัฒน์ฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นเซลส์แมนขายน้ำหอมปรับอากาศและแชมพูอาบน้ำสุนัขให้กับบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ได้เดินทางติดต่อขายสินค้าให้กับร้านค้าต่างๆ ทางภาคใต้ จึงทำให้ผู้ต้องหารู้ช่องทางในการติดต่อซื้อขายสินค้าและวิธีการสั่งสินค้ากับทางบริษัทฯ 

ต่อมาผู้ต้องหาได้สั่งซื้อสินค้ากับทางบริษัทฯ และให้นำไปส่งยังร้านค้าต่างๆ เกินจำนวนที่ลูกค้าสั่งซื้อ หลังจากนั้นจะโทรศัพท์ติดต่อไปยังลูกค้า อ้างว่าทางบริษัทฯ ได้ส่งสินค้าเกินจำนวน ผู้ต้องหาจะเป็นผู้เดินทางไปรับสินค้าคืน บางครั้งก็อ้างว่าขอใช้หน้าร้านของลูกค้า ฝากขายสินค้าไว้ก่อน เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่สะดวกเดินทางมารับ และเมื่อผู้ต้องหาสะดวกเดินทางมารับสินค้า ผู้ต้องหาจะมารับสินค้าเเละเงินที่ฝากขายสินค้ากับทางร้านค้าต่างๆ ซึ่งมีร้านค้าหลงเชื่อจำนวนหลายราย

ต่อมา ทางบริษัทฯ ได้ติดต่อไปยังร้านค้าต่างๆ เพื่อให้ชำระเงินค่าสินค้าที่สั่งซื้อ แต่ทางร้านค้าได้แจ้งให้ทางบริษัทฯทราบว่า ผู้ต้องหาได้มารับสินค้าที่แจ้งว่าสั่งเกินจำนวนกลับไปหมดแล้ว หลังจากนั้นทางบริษัทฯ จึงได้ติดต่อทวงถามไปยังผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหากลับแจ้งว่า ตนไม่สามารถนำสินค้าดังกล่าวมาส่งคืนให้กับทางบริษัทฯ ได้ เนื่องจากขายสินค้าดังกล่าวไปหมดแล้วทางบริษัทฯ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหา โดยทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับต่อศาล เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี บริษัทฯ สูญเงินกว่า 2,000,000 บาท
และเนื่องด้วยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หากไม่เร่งดำเนินการจับกุม อาจจะก่อเหตุซ้ำในพื้นที่อื่นๆอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาให้ได้โดยเร็ว

กระทั่ง วันที่ 28 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้มาทำงานเป็นเซลส์แมนขายโซฟาให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ขายส่งสินค้าทางภาคอีสาน และหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบตัวผู้ต้องหา จึงเข้าทำการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยรับว่าเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด จะนำไปใช้จ่ายและส่งเสียเลี้ยงดูหญิงสาวที่ตนคบหาจำนวนหลายคน

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”