กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.2 บก.ป.
ร่วมกันติดตามจับกุม นายกิจพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ
1. หมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 320/2562 ลง 5 พ.ย.62 ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง”
2. หมายจับศาลแขวงทุ่งสง ที่ 68/2562 ลง 20 ธ.ค.62 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราชที่ 82/2563 ลง 25 ส.ค.63 ข้อหา “ยักยอก”
4. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราช ที่ จ.7/2563 ลง 7 ก.พ.63 ข้อหา “ยักยอก”
5. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราช ที่ 52/2562 ลง 2 ส.ค.62 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
6. หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 103/2563 ลง 28 พ.ค.63 ข้อหา “ยักยอก”
7. ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ จ.61/2563 ลง 1 พ.ค.63 “ยักยอกทรัพย์”
8. หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 221/2562 ลง 9 ก.ย.62 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
9. ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.42/2563 ลง 4 มิ.ย.63 “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือทรัพย์ที่อยู่ในครอบครองของนายจ้าง”
10. ตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.212/2562 ลง 5 พ.ย.62 ข้อหา “ยักยอก”
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณต้นปี 2561 นายกิจพัฒน์ฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นเซลส์แมนขายน้ำหอมปรับอากาศและแชมพูอาบน้ำสุนัขให้กับบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ได้เดินทางติดต่อขายสินค้าให้กับร้านค้าต่างๆ ทางภาคใต้ จึงทำให้ผู้ต้องหารู้ช่องทางในการติดต่อซื้อขายสินค้าและวิธีการสั่งสินค้ากับทางบริษัทฯ
ต่อมาผู้ต้องหาได้สั่งซื้อสินค้ากับทางบริษัทฯ และให้นำไปส่งยังร้านค้าต่างๆ เกินจำนวนที่ลูกค้าสั่งซื้อ หลังจากนั้นจะโทรศัพท์ติดต่อไปยังลูกค้า อ้างว่าทางบริษัทฯ ได้ส่งสินค้าเกินจำนวน ผู้ต้องหาจะเป็นผู้เดินทางไปรับสินค้าคืน บางครั้งก็อ้างว่าขอใช้หน้าร้านของลูกค้า ฝากขายสินค้าไว้ก่อน เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่สะดวกเดินทางมารับ และเมื่อผู้ต้องหาสะดวกเดินทางมารับสินค้า ผู้ต้องหาจะมารับสินค้าเเละเงินที่ฝากขายสินค้ากับทางร้านค้าต่างๆ ซึ่งมีร้านค้าหลงเชื่อจำนวนหลายราย
ต่อมา ทางบริษัทฯ ได้ติดต่อไปยังร้านค้าต่างๆ เพื่อให้ชำระเงินค่าสินค้าที่สั่งซื้อ แต่ทางร้านค้าได้แจ้งให้ทางบริษัทฯทราบว่า ผู้ต้องหาได้มารับสินค้าที่แจ้งว่าสั่งเกินจำนวนกลับไปหมดแล้ว หลังจากนั้นทางบริษัทฯ จึงได้ติดต่อทวงถามไปยังผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหากลับแจ้งว่า ตนไม่สามารถนำสินค้าดังกล่าวมาส่งคืนให้กับทางบริษัทฯ ได้ เนื่องจากขายสินค้าดังกล่าวไปหมดแล้วทางบริษัทฯ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหา โดยทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับต่อศาล เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี บริษัทฯ สูญเงินกว่า 2,000,000 บาท
และเนื่องด้วยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หากไม่เร่งดำเนินการจับกุม อาจจะก่อเหตุซ้ำในพื้นที่อื่นๆอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาให้ได้โดยเร็ว
กระทั่ง วันที่ 28 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้มาทำงานเป็นเซลส์แมนขายโซฟาให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ขายส่งสินค้าทางภาคอีสาน และหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบตัวผู้ต้องหา จึงเข้าทำการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยรับว่าเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด จะนำไปใช้จ่ายและส่งเสียเลี้ยงดูหญิงสาวที่ตนคบหาจำนวนหลายคน
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”