กองปราบร่วมกับนครบาล รวบนายหน้าหนุ่มใหญ่หึงโหดฆ่าแฟนสาว

กองปราบร่วมกับนครบาล รวบนายหน้าหนุ่มใหญ่หึงโหดฆ่าแฟนสาว

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ  ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ  ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ รอง สว.กก.๓ บก.ป., ร.ต.อ.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ รอง.สว.(สอบสวน) กก.3บก.ป., ด.ต.สุรศักดิ์ บุญเพ็ง, ด.ต.ชโยธรณ์ ทองนาค, ด.ต.มนตรี โสภัย, ด.ต.นมสิทธิ์ วาทโยธา, ด.ต.สังเวียน โอรา, ด.ต.พิชิตณรงค์ คำยศ, ด.ต.ประกาญ แก้วโพธิ์งาม, ด.ต.หัสดี ชิลนาค, จ.ส.ต.มงคล ชิณภาพ, ส.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์ไทย, ส.ต.ท.สุพจน์ ยางขัน และส.ต.ท.ชูศักดิ์ เฟื่องฟู ผบ.หมู่.กก.3 บก.ป ร่วมกันจับกุม นายอิทธิชัย (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคามที่ จ.83/2563 ลง 15 ส.ค.2563 ฐานความผิด “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย”

สืบเนื่องจาก นายอิทธิชัยฯ (ผู้ต้องหา) ได้ทำความรู้จักกับ น.ส.สกาวเดือนฯ (ผู้เสียหาย) เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน และต่อมาได้ตกลงเป็นสามีภรรยากัน โดยนายอิทธิชัยฯ จะแสดงอาการหึงหวง น.ส.สกาวเดือนฯ เนื่องจากตนเองมีอายุเยอะ กลัวนางสาวสกาวเดือนฯ จะตีตัวออกห่าง จึงมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อย ประกอบกับ น.ส.สกาวเดือนฯ เริ่มรู้ว่า นายอิทธิชัยฯ ไม่ใช้นายหน้าขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กล่าวอ้าง จึงเริ่มตีตัวออกห่าง และเป็นเหตุทำให้นายอิทธิชัยฯ เกิดความโมโห ไม่พอใจ มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และก่อเหตุทำร้ายร่างกายโดยการบีบคอ น.ส.สกาวเดือนฯ จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนี ซึ่งต่อมา น.ส.สุรัตน์ฯ มารดาของน.ส.สกาวเดือนฯ ได้เข้าร้องเรียนกับทางกองปราบปราม ให้ช่วยเหลือสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายอิทธิชัยฯ (ผู้ต้องหา) มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่บริเวณชุมชนย่านหัวลำโพงและคลองหลอด

จนกระทั่งวันที่ 22 ส.ค.2563 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.ได้สนธิกำลังร่วมกับ บก.สส.ภ.4, บก.สส.น.6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพัก ย่านถนนไมตรีจิตต์ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปรายศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ แล้วจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โกสุมพิสัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป