กองปราบจับ นักตุ๋นโลกโซเชียล

กองปราบจับ นักตุ๋นโลกโซเชียล

              “กองปราบจับ นักตุ๋นโลกโซเชียล”

                  กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ต.จิรภพ  ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.อรุณ  วชิรศรีสุกัญยา ผกก.๒ บก.ป., พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง, พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์  ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฎิบัติการที่ 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามจับกุมตัวนายเจษฎาหรือเบิร์ด (สงวนนามสกุล) มิจฉาชีพมือฉมัง กระทำผิดโดยการส่องเพจประมูลสินค้าโลกโซเชียลและแอบอ้างเป็นเจ้าของสินค้า หลอกตุ๋นเอาเงินประชาชนเสียหายหลายแสน สุดท้ายไม่พ้นมือกองปราบ โดนรวบตัวในที่สุด

                  จากสถานการณ์ปัจจุบันมีมิจฉาชีพออกอาละวาดในโลกโซเชียล สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่สืบสวนของ กก.2 บก.ป. จึงไม่รอช้า ออกสืบสวนทางคดีจนพบว่านายเจษฎา หรือ เบิร์ด  (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี มีการกระทำผิดลักษณะฉ้อโกงซ้ำซากหลายครั้ง จนเป็นแผนประทุษกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว สำหรับแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหารายนี้จะเข้าไปหาข้อมูลในโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเพจที่มีการประมูลสินค้าที่มีราคาสูง จากนั้นจะหลอกลวงว่าตนเป็นเจ้าของเพจขายสินค้านั้น และติดต่อไปยังผู้ที่ประมูลสินค้าแต่ไม่ได้ โดยหลอกว่าสินค้าที่ต้องการยังมีอยู่ พร้อมเสนอในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินมาให้ผู้ต้องหา ซึ่งนายเจษฎาฯ ได้ก่อเหตุลักษณะเช่นนี้และถูกจับกุมหลายครั้ง อีกทั้งมีหมายจับติดตัวอีกอย่างน้อย 2 คดี มีรายละเอียดดังนี้

  1. วันที่ 20 เม.ย.2563 นายเจษฎาฯ ได้เข้าไปสังเกตการณ์การประมูลนาฬิกายี่ห้อ ROLEX รุ่น SUBMARINE ในเพจเฟซบุ๊ค ขายนาฬิกามือสอง หลังจากจบการประมูล นายเจษฎาได้หลอกลวงว่าตนเป็นเจ้าของทรัพย์และติดต่อไปยังผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป ภายหลังทราบว่าตนนั้นถูกหลอก จึงได้แจ้งความกับ สน.วังทองหลาง และศาลได้อนุมัติหมายจับ (หมายจับของศาลอาญา ที่ 736/2563 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”) ผู้ต้องหายังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายนี้มาก่อน
  2. วันที่ 20 เม.ย. 2562 นายเจษฎาฯ ได้เข้าไปสังเกตการณ์ในกลุ่มประมูลขายล้อแม็คและยางของรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ เมื่อผู้เสียหายสนใจสั่งซื้อล้อแม็คและยาง จำนวน 4 ล้อ ในราคา 18,555 บาท และส่งข้อความไปซื้อผ่านทางเพจไลฟ์สดพร้อมฝากหมายเลขติดต่อกลับไว้ที่เพจ ต่อมานายเจษฎาฯ ได้แสร้งเป็นเจ้าของเพจและโทรศัพท์หาผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินพร้อมส่งหลักฐานกลับไปยังเพจดังกล่าว ปรากฎว่าเจ้าของเพจบอกว่า บัญชีไม่ใช่ของทางร้าน ผู้เสียหายจึงทราบว่าตนถูกหลอกลวง จึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี และศาลได้อนุมัติหมายจับ (หมายจับของศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 66/2563 ลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่า “ฉ้อโกง”) ผู้ต้องหายังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายนี้มาก่อน

นอกจากนี้ ผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุอีกหลายครั้งและถูกจับกุมดำเนินคดี แต่ผู้เสียหายยอมความ จึงรอดมาก่อเหตุในคดีต่อๆ มา ซึ่งคดีที่นายเจษฎาฯ ได้เคยก่อไว้มีดังนี้

  1. วันที่ 18 พ.ย.2561 นายเจษฎาฯ แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของกระเป๋ามือสอง ในเพจประมูลสินค้า และติดต่อไปยังผู้เสียหายซึ่งประมูลไม่ทัน หลอกลวงว่าผู้เสียหายได้ในราคาตามที่ประมูล (20,000 บาท) ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป ภายหลังทราบว่าถูกหลอก จึงได้แจ้งความดำเนินคดี และติดตามจับกุมได้
  2. วันที่ 4 ก.ย 2562 แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของพระเครื่อง ในเพจประมูลพระเครื่อง ผู้เสียหายไม่สามารถประมูล และได้ใส่ข้อมูลเลขโทรศัพท์ผู้เสียหายไว้ในเพจ ต่อมานายเจษฎาฯ โทรศัพท์มาแจ้งให้ผู้เสียหายว่า คนที่ประมูลได้สละสิทธิที่ประมูลได้ และผู้เสียหายเป็นประมูลคนถัดมาได้สิทธิซื้อ ผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินไป ภายหลังทราบว่าถูกหลอก จึงได้แจ้งความดำเนินคดี และติดตามจับกุมได้
  3. วันที่ 18 ก.พ. 2563 แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของเรือเจทสกีซึ่งเปิดประมูลในเพจ และหลอกลวงผู้เสียหายว่า “คนที่ประมูลได้ไม่พร้อมโอนค่ะ รับแทนไหม 60,000 บาท ค่ะ “ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไป หลังจากโอนเงินไม่สามารถติดต่อได้ จึงทราบว่าถูกหลอกจึงได้แจ้งความดำเนินคดี และติดตามจับกุมได้

                จากพฤติกรรมที่กล่าวมาของนายเจษฎาฯ แสดงถึงความเป็นอาชญากรประเภทนักต้มตุ๋น ที่ก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าสร้างสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมาก เจ้าหน้าที่สืบสวนของ กก.2 บก.ป. จึงได้ออกติดตามจับกุมเพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ใน ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้วางแผนจับกุม ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ก็สามารถจับกุมนายเจษฎาฯ ได้โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำกับเพื่อน แต่ตนเองเป็นคนเปิดบัญชีธนาคารเท่านั้น นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรคงต้องไปพิสูจน์กันต่อในกระบวนการยุติธรรม และคดีนี้เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะแบบนี้อีกหลายรายที่รอทวงคืนความยุติธรรม ปิดฉากนักตุ๋นประมูลออนไลน์  

 

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด