กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.ท.นนทกร นันทะน้อย รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป., ด.ต.ประชา ศรีนวลชาติ, ด.ต.วิทวัฒน์ สุวรรณน้อย, ด.ต.พรชัย พลอยมี และ ด.ต.เชษฐ์ภิญญู ศิริพันธ์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 348/2565 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปลอมเอกสารซึ่งเป็นเอกสารราชการ, ร่วมกันปลอมหนังสือเดินทาง และจัดหาหนังสือเดินทางให้ผู้อื่นนำไปใช้โดยมิชอบ”
สถานที่จับกุม หน้าบ้านพักอาศัยแห่งหนึ่ง ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
พฤติการณ์ ช่วงต้นปี พ.ศ.2560 นายณัฐพงษ์ฯ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า หนังสือเดินทางของตนกำลังจะหมดอายุ ตนจึงได้ร่วมกันกับ นายยุทธนาฯ ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นพี่น้องฝาแฝด ให้ไปดำเนินการทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่ สำนักงานการค้าเศรษฐกิจไทย (ไทเป) ไต้หวัน แทนตน เนื่องจากในช่วงดังกล่าว นายณัฐพงษ์ฯ ไม่สะดวกเดินทางไปทำหนังสือเดินทางด้วยตนเอง ต่อมา เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 นายยุทธนาฯ ได้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนของนายณัฐพงษ์ฯผู้ต้องหา พร้อมหนังสือเดินทางเลขที่ ของนายณัฐพงษ์ฯ ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานการค้าเศรษฐกิจไทย (ไทเป) ไต้หวัน โดย นายยุทธนาฯ ออกอุบายว่า ต้องการขอออกหนังสือเดินทางใหม่แทนหนังสือเดินทาง ฉบับเดิม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูล และให้นายยุทธนาฯ กรอกข้อความลงบนเอกสารแบบฟอร์มขอทำหนังสือเดินทาง และพิมพ์คำร้องขอทำหนังสือเดินทางใหม่ ซึ่งนายยุทธนาฯ ได้แสดงตนว่า ตนเองชื่อ นายณัฐพงษ์ฯ พร้อมกรอกลายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของนายณัฐพงษ์ฯ ทั้งหมด และลงลายมือชื่อในช่องลายมือต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานการค้าเศรษฐกิจ (ไทเป) ไต้หวัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายสำเนาเอกสารไว้ ประกอบคำร้อง โดยนายยุทธนาฯ รับว่าเอกสารถูกต้องแล้ว แล้วจึงได้ทำการสแกนแบบฟอร์มลงในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนมีการถ่ายภาพถ่ายรูปหน้าของนายยุทธนาฯ และพิมพ์ลายนิ้วมือของนายยุทธนาฯ ลงในระบบข้อมูลของผู้ที่มายื่นขอหนังสือเดินทาง
ต่อมา กองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ได้ตรวจพบความผิดปกติ คือ ภาพถ่ายใบหน้า และลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มาออกหนังสือหนังสือเดินทางนั้น ไม่ตรงกันกับนายณัฐพงษ์ฯ ผู้ต้องหานี้ จึงได้ทำการสอบถามข้อมูลไปยังกรมการปกครองเพื่อขอตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร และบัตรประจำตัวประชาชน ปรากฏพบข้อมูลว่า นายณัฐพงษ์ฯ ผู้ต้องหานี้ และ นายยุทธนาฯ นั้นเป็นฝาแฝดกัน ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกัน และอาศัยช่องว่างดังกล่าวในการมาออกหนังสือเดินทางแทนกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนเพื่อให้หลงเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่แท้จริง จากนั้นกรมการกงสุล ในฐานะผู้เสียหาย จึงได้มาเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดดีกับผู้ต้องหาทั้งสอง ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมา วันที่ 15 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบทราบว่านายณัฐพงษ์ฯ ผู้ต้องหา ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และนำกำลังเข้าตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ต.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป. หมายเลขโทรศัพท์ 085 2369655