รวบ สาวใหญ่กํามะลอ ลวงผู้รับเหมาสร้างโรงแรม ตีเช็คเด้ง ความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท

รวบ สาวใหญ่กํามะลอ ลวงผู้รับเหมาสร้างโรงแรม ตีเช็คเด้ง ความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองระยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคํา, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.พร้อมคุณ ทองบัว รอง สว.กก.5 บก.ป., ด.ต.นฤมิตร โคนาหาร, ด.ต.จรินทร์ ตารมย์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม น.ส.ปุณญรัชน์(สงวนนามสกุล) อายุ42ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 หมายจับ ดังนี้
1. หมายจับศาลแขวงภูเก็ตที่ 179/2562 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกัน ออกเช็คเพื่อชําระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค, ในขณะที่ ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น”
2. หมายจับศาลแขวงภูเก็ตที่ 103/2563 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2563 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันออก เช็คเพื่อชําระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค, ในขณะที่ออก เช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น”
3. หมายจับศาลแขวงภูเก็ตที่ 169/2564 ลงวันที่ 1 กันยายน 2564 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันออก เช็คเพื่อชําระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค, ในขณะที่ออก เช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น”

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 13.30 น.

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่จ.ภูเก็ต โดยสร้างความน่าเชื่อถือในวงการผู้ประกอบการโรงแรมด้วยการเป็นนายหน้าโครงการอพาร์ทเมนต์ ซึ่งมีสิ่งอํานวยความสะดวก เช่น ร้านรับซักรีดเสื้อผ้า ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านอาหาร

ต่อมาเมื่อประมาณช่วงกลางปีพ.ศ.2562 ผู้ต้องหาได้มีแผนการสร้างอพาร์ทเมนต์แห่งใหม่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และได้ติดต่อจ้างบริษัทฯ ของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้ดําเนินการตามโครงการดังกล่าว โดยหลังจากที่ได้มีการทําสัญญาก่อสร้างอาคารดังกล่าวเรียบร้อยแล้วผู้ต้องหาได้ทําทีเป็นขอชําระค่าก่อสร้าง ด้วยการออกเช็คจํานวน 3 ฉบับ เรียงตามระยะเวลาที่ผู้รับเหมาจะดําเนินงาน ซึ่งทางผู้เสียหายตกลงรับการชําระค่าก่อสร้างด้วยเช็คเงินสด เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหานี้มีเครดิตดี มีความน่าเชื่อถือ

ต่อมาเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2562 ซึ่งครบกําหนดตามระยะเวลาการชําระค่าก่อสร้างตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา ผู้เสียหายได้นําเช็คฉบับแรก ไปเรียกเก็บเงินตามวิธีของธนาคาร ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายหลังจากนั้นผู้เสียหายจึงได้พยายามติดต่อไปยังผู้ต้องหาเรื่อยมา แต่ถูกบ่ายเบี่ยง จนเมื่อถึงกําหนดชําระเงินของเช็คอีก 2 ฉบับ ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 2 ฉบับคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งเมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อทวงถามให้ผู้ต้องหามาชําระหนี้ดังกล่าว กลับไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา วันที่ 25 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนติดตามจนกระทั่งสืบทราบว่า น.ส.ปุณญรัชน์ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เจ้าหน้าที่ ชุดจับกุมจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบและนํากําลังเข้าตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ ในที่สุด

สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา