รวบสาวแสบ อ้างตัวเป็น “นักสืบกำมะลอ” หลอกเงินผู้เสียหาย

รวบสาวแสบ อ้างตัวเป็น “นักสืบกำมะลอ” หลอกเงินผู้เสียหาย

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี  เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป., พ.ต.อ.ธีระยุทธ สุทธิพนไพศาล ผกก.สภ.หนองปลิง, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์, พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี รอง ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ เสรีรัฐ รองผกก.สส.สภ.หนองปลิง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์ สว.กก.๑ บก.ป. พร้อมพวก

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.หนองปลิง นำโดย พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ เกิดมี สว.สส.สภ.หนองปลิง พร้อมพวก

    ร่วมกันจับกุม นางสาวสุพิชชา หรือสาริตา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงนครสวรรค์ ที่ จ.11/2565 ลงวันที่ 13 ม.ค. 2565  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”

    สถานที่จับกุม ริมถนน ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พฤติการณ์  ก่อนเกิดเหตุนางสาวสุพิชชาฯ ได้เจอกับผู้เสียหายที่ศาลแขวงดอนเมือง และเข้ามาตีสนิทกับผู้เสียหายโดยอ้างว่าตนเองเป็นนักสืบเอกชน สามารถติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับมาได้แล้วหลายคดี โดยมีทีมงานซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน มีประสบการณ์และมีความชำนาญพิเศษด้านการติดตามค้นหาตัวบุคคลเป็นอย่างดี

  ต่อมาผู้เสียหายได้เล่าให้ผู้ต้องหาฟังว่า ตนมีญาติเป็นผู้เสียหายในคดีพยายามฆ่า และพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งคนร้ายในคดีดังกล่าวนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี เมื่อผู้ต้องหาทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้แสดงความน่าเชื่อถือ ทําให้ผู้เสียหายไว้ใจและหลงเชื่อ ตกลงให้ผู้ต้องหาติดตามตัวคนร้ายในคดีญาติของตน โดยระหว่างติดตามตัวคนร้าย ผู้ต้องหาได้ใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายว่าตนใกล้ติดตามตัวคนร้ายได้แล้ว หลอกว่าคนร้ายหลบหนีออกประเทศเพื่อนบ้าน จนครั้งสุดท้ายได้หลอกผู้เสียหายว่าคนร้ายได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศ และถูก      เจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมตัวได้ที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าดำเนินการให้กับผู้ต้องหา โดยผู้เสียหายได้โอนเงินให้ผู้ต้องหาผ่านบัญชีธนาคาร จำนวน 28 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๓๕๔,000 บาท

  จากนั้นเมื่อผู้เสียหายไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องหา ผลปรากฏว่าไม่พบตัวผู้ต้องหา อีกทั้งไม่มีการเปิดเป็นสํานักงานนักสืบตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวงอย่างแน่นอน จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษและมอบคดีกับพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาฉ้อโกงเพื่อให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

  ต่อมาวันที่ 13 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน    สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ได้ทำการสืบสวนติดตาม จนพบว่า นางสาวสุพิชชาฯ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปพักอาศัยและทำงานอยู่ในพื้นที่ ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้ทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

  สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

  ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ร.ต.ท.สพงษ์ธรรศน์  แก้วจุนันท์ โทร. 087-978-5335

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”