รวบเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช  พร้อมขยายผลตรวจยึดยาไอซ์ 2,500 กรัม และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

รวบเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช  พร้อมขยายผลตรวจยึดยาไอซ์ 2,500 กรัม และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป.
 
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา, พ.ต.ต.อภิชาต อินยอด, พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.ศรายุทธ จันซิว, ร.ต.อ.ยุทธนา จิตจำนอง, ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญทอง, ร.ต.อ.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง รอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ 1 และ 3 กก.6 บก.ป.
 
ร่วมกันจับกุม 
1. น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ จ263/3564 ลง 11 ต.ค.64 ในความผิดฐาน “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า, ไอซ์), เฮโรอีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”) และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่สมคบ” 
2. นายเจมส์ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย”
3. นายบี (นามสมมติ) อายุ 39 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย” 
4. น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย” 
 
สถานที่จับกุม ห้องพักละแวก ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
 
 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้กระทำความผิดรายหนึ่งพร้อมด้วยของกลางยาบ้า 549,996 เม็ด, ยาไอซ์ 100 กรัม และเฮโรอีน 3,880 กรัม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนั้นจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนมีหลักฐานเชื่อว่า น.ส.จอยฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น และเป็นเอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีออกหมายจับ น.ส.จอยฯ ตามหมายจับดังกล่าว
 
โดยในวันที่ 13 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวนทราบว่า น.ส.จอยฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในคอนโดหรู ในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าจับกุม น.ส.จอยฯ ตามหมายจับดังกล่าว โดยเบื้องต้น น.ส.จอยฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
 
และในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายเจมส์ฯ (สามีของ น.ส.จอยฯ) ได้พร้อมกับยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 500 กรัม และยาบ้า จำนวน 334 เม็ด ซึ่งนายเจมส์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดเงินสด, รถยนต์ และทองคำ ที่อยู่ในความครอบครองของนายเจมส์ฯ รวมมูลค่ารวมกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป
 
หลังจากจับกุมนายเจมส์ฯ ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมนายบีฯ และ น.ส.ออยฯ พร้อมของกลางไอซ์ 2,000 กรัม และยาบ้า 8 เม็ด ได้ในพื้นที่ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช โดย น.ส.ออยฯ ให้การภาคเสธ ส่วนนายบีฯ ให้การรับสารภาพว่าของกลางดังกล่าวตนสั่งซื้อมาจากเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ 
 
ทั้งนี้ในส่วนของของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำส่งสถานีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป