ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. (ผู้ช่วยศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สตช.), พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ, พ.ต.ต.ปิยะพร เรียนสุทธิ์พ.ต.ต.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ต.พัฒษพงศ์ เสณีเเสนเสนา สว.กก.5.บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป., กก.3 บก.ป., กก.4 บก.ป. และ กก.สสน.บก.ป. ดำเนินการติดตามจับกุมเครือข่ายค้าอาวุธปืนออนไลน์ผิดกฎหมาย
สืบเนื่องมาจากนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งได้มีการซื้อขายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ดังกล่าว
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. พบว่ามีกลุ่มบุคคลจัดตั้งกลุ่มไลน์ซึ่งเป็นกลุ่มปิด ชื่อว่า“Gun&Gun 2 ตป.” ทําการซื้อขายอาวุธปืนผ่านกลุ่มไลน์ดังกล่าว โดยมีการซื้อขายทั้งอาวุธปืนที่มีทะเบียน, อาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน, อาวุธปืนสงคราม และเครื่องกระสุนปืน ซึ่งกลุ่มไลน์ดังกล่าวจะมีแอดมินเป็นผู้ดูแลและคัดกรองสมาชิกก่อนเข้ากลุ่ม และจะให้สมาชิกในกลุ่มไลน์สามารถโพสต์ภาพและข้อความเสนอขายอาวุธปืนผ่านกลุ่มไลน์นี้ได้ด้วยตนเอง หรือจะซื้อขายผ่านแอดมินกลุ่มก็ได้ด้วยเช่นกัน โดยเมื่อมีการตกลงซื้อขายอาวุธปืนกับสมาชิกในกลุ่มไลน์แล้ว ผู้ซื้อจะต้องชําระเงินค่าอาวุธปืนผ่านบัญชีธนาคารที่ผู้ขายแจ้งไว้ หลังจากนั้นผู้ขายจะดำเนินการจัดส่งอาวุธปืนผ่านทางบริการขนส่งพัสดุในรูปแบบต่างๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงซึ่งน่าเชื่อว่า กลุ่มไลน์ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกในกลุ่มทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายอาวุธปืนกัน อีกทั้งยังมีการลักลอบเปิดแหล่งผลิตปืนปากกา เพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น และประชาชนทั่วไป ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการซื้อขายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ นอกจากนี้ยังอาจจะก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อคนในสังคมได้อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จำนวน 6 หมายจับเพื่อทำการติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 16 จุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 6 ราย ดังนี้
1. นายประจักร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1068/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นําเข้า มี หรือ จําหน่ายอาวุธปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนฯ, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านฯ”
2. นายปราการ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1075/2564 “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
3. นายสมควร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1069/2564 “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
4. นายดิเรก (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1067/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน“ร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นําเข้า มี หรือ จําหน่ายอาวุธปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
5. นายนราธิป (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1070/2564 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน“ร่วมกันจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านฯ”
6. นายธงชัย (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1074/2564 “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีกจำนวน 1 ราย คือ นายพยับ (สงวนนามสกุล) พร้อมเครื่องกระสุนปืนอยู่ในครอบครอง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ให้ผู้ต้องหาทราบ
ในส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้ เป็นอาวุธปืนจำนวนทั้งสิ้น 13 กระบอกประกอบไปด้วยอาวุธปืนสั้นจำนวน ๖ กระบอก อาวุธปืนยาวจำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนปากกา จำนวน 6 กระบอก นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนจำนวนกว่า 200 นัด อุปกรณ์ส่วนควบอาวุธปืนและเครื่องมือในการผลิตอาวุธปืนอีกจำนวนหลายรายการ พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดเอกสารและสมุดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
จากกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากลุ่มค้าอาวุธปืนออนไลน์กลุ่มนี้ มีลักษณะเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ มีการซื้อขายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และจากการตรวจสอบยังพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนี้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง กก.5 บก.ป. จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีการจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
กองบังคับการปราบปรามจึงขอฝากเตือนภัยประชาชน สำหรับการซื้อขายอาวุธปืนใดๆ ก็ตาม ท่านต้องทำการขออนุญาตจากนายทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน หากมีการผลิต หรือซื้อขายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่าเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด