กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบฝาสุวรรณ, พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัยรอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.รณกร สุขมงคล, พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล, พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ, พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ปานสีทา รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ณรงค์ หาญสันเทียะ สว.กก.4 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ 1 กก.4 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายธวัช (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ25/2558 ลงวันที่ 1 เมษายน 2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
สถานที่จับกุม บริเวณร้านข้าวต้มริมถนน ซ.ขุนสวรรค์ ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากนายธวัช หรืออ้นฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นนายทุน ได้ว่าจ้างให้ผู้อื่นมาทำสัญญาซื้อขายรถ หรือรับจำนำรถ โดยที่นายธวัชหรืออ้นฯ จะไม่ใช้ชื่อของตนเองในการทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อหลบหลีกการติดตามตัว และเมื่อนายธวัชหรืออ้นฯ ได้รับรถมาจากผู้ที่รับจ้างทำสัญญาซื้อขาย หรือจำนำรถแล้วนั้น นายธวัชหรืออ้นฯ จะนำรถที่ได้มาไปส่งขายต่อให้กับกลุ่มบุคคลในเครือข่ายของตน โดยรถที่นำไปขายนั้น จะถูกแบ่งขายออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มส่งขายออกต่างประเทศ 2. กลุ่มนำรถไปสวมซากกับรถที่มีอุบัติเหตุ 3. กลุ่มที่ชำแหละรถเพื่อขายอะไหล่
ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหา ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความดำเนินคดี
จนกระทั่งวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายธวัชหรืออ้นฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงบริเวณร้านข้าวต้มริมถนน ซ.ขุนสวรรค์ ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าว จึงเข้าจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีเทพ ภ.จว.เพชรบูรณ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่ามีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก 11 หมาย ดังนี้
1. ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ 39/2558 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
2. ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ 102/2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
3. ศาลแขวงนครสวรรค์ ที่ 140/2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
4. ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 183/2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“รับของโจร”
5. ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 370/2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “รับของโจร”
6. ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ที่ 32/2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
7. ศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 165/2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “รับของโจรนั้นได้กระทำต่อทรัพย์ อันได้มาโดยการลักทรัพย์”
8. ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ 30/2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”
9. ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 69/2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” คดีหมายเลขดำที่ 853/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 1474/2556
10. ศาลจังหวัดระยอง คดีหมายเลขดำที่ 4677/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 4376/2556 ลงวันที่ 19 มิถุนายน2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์หรือรับของโจร”
11. ศาลจังหวัดระยอง คดีหมายเลขดำที่ 5222/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 3161/2556 ลงวันที่ 26 เมษายน 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์หรือรับของโจร”
ช่องทางติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากชุดจับกุม ร.ต.อ.ณรงค์ หาญสันเทียะ สว.กก.4 บก.ป. (ชป.1 กก.4 บก.ป.) หมายเลขโทรศัพท์ 081-9391993